Loading...

สถาปัตย์ฯ ธรรมศาสตร์ ร่วมมือ เอสซีจี ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ Net Zero

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมสรรค์ "Climate Resilience - การแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ"

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567

     คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษและแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ "Climate Resilience - การแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" เพื่อเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างและการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) สร้างสังคมสู่ Net Zero เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้อง The Mitr-ting Room สามย่านมิตรทาวน์

     ผศ.อาสาฬห์ สุวรรณฤทธิ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความยั่งยืน (Sustainability) ไม่ใช่เรื่องใหม่ จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ด้วยการเชื่อมโยงมิติของสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน เป็นแนวคิดที่ถูกนิยาม/ตีความอย่างหลากหลาย บูรณาการมุมมองที่หลากหลายจากหลายศาสตร์ และยังมีพัฒนาการอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในมุมมองของโลกวิชาการและโลกของการปฏิบัติงาน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา ได้เห็นหลากหลายเครื่องมือในการสร้างความยั่งยืน ผ่านการกำหนดนิยามตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย มาตรการต่าง ๆ ทั้งเชิงส่งเสริมและบังคับ ที่ทยอยออกมาในหลายประเทศ และในบางประเทศที่พัฒนาแล้ว

     “ความยั่งยืน” เป็นถึงยุทธศาสตร์ในการพัฒนามหาวิทยาลัย ในฐานะหน่วยงานอุดมศึกษา (Higher Education) มีบทบาทที่สำคัญในการผลิตองค์ความรู้และทางออกใหม่ ที่ต้องยั่งยืนให้กับสังคม ผ่านโครงการวิจัยของคณาจารย์และนักศึกษาบัณฑิตศึกษา ด้วยความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ คณะสถาปัตย์ฯ ธรรมศาสตร์ ได้รับการจัดลำดับโดย Times Higher Education’s World University Ranking by Subject: Arts & Humanities ในด้าน Architecture และ Design ให้ มีคะแนน Research Quality สูงที่สุดในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าการเรียนการสอนและงานวิชาการ ยังคงเป็นอีกหนึ่งบทบาทหลักที่สำคัญของมหาวิทยาลัยในการถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ให้กับคนรุ่นถัดไป (Next Generation)

     ในปัจจุบันทุกมหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอนในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดด้านความยั่งยืน และเกือบ 10 ปีแล้วที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีวิชาพื้นฐาน (General Education) ในประเด็นนี้ และกว่า 15 ปีแล้วที่คณะสถาปัตย์ฯ ธรรมศาสตร์ ได้เริ่มสร้างวิชาการออกแบบและวางแผนอย่างยั่งยืนให้กับนักศึกษาในหลักสูตรวิชาชีพ ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ทางด้านความยั่งยืนให้กับภาคปฏิบัติ (Practitioner) ในองค์กรและอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของคณะสถาปัตย์ฯ ธรรมศาสตร์ เช่นกัน

     คุณวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ได้กล่าวถึง ผลจากเรื่องการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ในการประชุม COP 28 ที่ผ่านมามีการหารือเป็นวงกว้างเกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานและปลดปล่อยคาร์บอน การเปลี่ยนแหล่งพลังงานเป็นพลังงานสะอาด รวมถึงการใช้เงินทุนที่สนับสนุนโครงการ Green หรือ Net Zero Project

     ผลกระทบต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มองว่าทุกภาคส่วนจะพบความท้าทายมากขึ้น เช่น จากภาครัฐ ที่มีการวางกรอบเพื่อควบคุมคาร์บอนในเชิงกฎหมาย รวมถึงความคาดหวังของคู่ธุรกิจ ที่ต้องการลดการปลดปล่อยคาร์บอน และแม้ต้องปรับตัว แต่ก็ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ เพราะเป็นปีที่ Green Finance มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนว่าพร้อมสนับสนุน โครงการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

     ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีสัญญานการปรับตัวในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน จากปริมาณความต้องการ การขอการรับรองอาคารเขียว และการคำนวณคาร์บอนของโครงการมากขึ้น แต่มาตรการข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีรายละเอียดอื่นที่สามารถศึกษาและร่วมมือกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม นำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

     ผศ.ดร.กัลยา ตันติยาสวัสดิกุล รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แนะนำหลักสูตร Scenario Planning for Sustainability Leadership ซึ่งเป็น Executive Program ที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง คณะสถาปัตย์ฯ ธรรมศาสตร์ และ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด โดยเป็นหลักสูตรสำหรับผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับการคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์ในมิติความยั่งยืน ท่ามกลางพลวัตโลกที่เผชิญกับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจที่ซับซ้อน ซึ่งบทบาทของผู้บริหารสำคัญอย่างมากในการปรับกระบวนทัศน์และขับเคลื่อนองค์กรสู่โอกาสของความท้าทายใหม่ ๆ

     ผู้บริหารไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่ทำความเข้าใจหลักการของความยั่งยืน แต่ต้องสามารถนำหลักการมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อธุรกิจ รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวมอย่างมีธรรมภิบาลด้วย เพื่อผลักดันองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม (sustainable and inclusive growth) ดังนั้น Sustainability Leadership คือทักษะสำคัญของผู้บริหารที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนแห่งอนาคตได้โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ความยั่งยืน และผู้บริหารที่มีศักยภาพของ Sustainability Leadership จะสามารถพัฒนาแนวทางบริหารจัดการที่ให้ทางออก ตอบโจทย์ความท้าทายแห่งอนาคต สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในบริบทของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ พร้อมทั้งคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวจากการตัดสินใจต่าง ๆ ขององค์กรได้ หรือศึกษารายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ : https://drive.google.com/drive/folders/1Wst_z0YBvUANKReGkfickgbxmRRDyjT7?usp=sharing