Loading...

“ธรรมศาสตร์” จับมือสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน ผลิตนักบริหาร-นวัตกรรมแห่งแรกในประเทศ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ผลิตนักบริหารและนวัตกรรมลดความสูญเสียจากปัญหาความปลอดภัยจากการทำงาน สิ่งแวดล้อมและพลังงานเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2561

          คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) การดำเนินโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรพัฒนาผู้บริหาร Mini MBA : นวัตกรรมความยั่งยืนในการจัดการความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 โดยโครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 มกราคม - 30 มีนาคม 2562 เป็นความร่วมมือของ 3 สถาบัน ในการผลิตนักบริหารและนวัตกรรมลดความสูญเสียจากปัญหาความปลอดภัยจากการทำงาน สิ่งแวดล้อมและพลังงานเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และทักษะเชิงผสมผสานองค์ความรู้ด้านการบริหาร มุ่งมั่นและสนับสนุนการเกิดนวัตกรรมที่ข้ามศาสตร์ และตอบสนองพลวัตของสังคมโลก ในการกระตุ้นให้ทุกคนในสังคมได้ตระหนักถึงความท้าทายด้านความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อมและพลังงานอย่างยั่งยืน 

 

          ศาสตราจารย์ พญ.อรพรรณ โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา กล่าวว่า การข้ามศาสตร์ครั้งนี้เป็นนิมิตหมาย และการเริ่มต้นที่ต่อเนื่องและยั่งยืนอย่างแท้จริง อันสอดคล้องไปกับสถานการณ์และความเป็นพลวัตของสังคมโลก ที่ถูกท้าทายด้วยปัญหาความสูญเสีย และภัยคุกคามด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน การดำเนินงานอย่างแข็งขันสอดคล้องกันอย่างก้าวกระโดดของคณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน จะสรรสร้างนวัตกรรมได้อย่างไม่ยาก ซึ่งตอบรับกับความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างเต็มที่ที่จะให้มหาวิทยาลัย มีการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลายในลักษณะตลาดวิชา ตอกย้ำมหาวิทยาลัยเพื่อการศึกษาของประชาชนหรือ “Gen Next Academy”

          ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สสิธร เทพตระการพร คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ กล่าวว่า ความท้าทายของมิติสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และพลังงานในระดับโลก ภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่นกำลังถูกตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมาก ดังสะท้อนได้จากการเกิดขึ้นกฎบัตร กฎหมาย ข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมถึงยุทธศาสตร์ นโยบายในระดับประเทศ หรือแม้แต่ข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ผนวกกับข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนต่างชี้ชัดว่า นักบริหารทุกระดับต้องพัฒนาสมรรถนะให้พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายดังกล่าวอย่างรอบคอบและรอบด้านในการหลอมรวมองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจให้เข้ากับกระแสของการให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน

         รองศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมชัย ชัยกิตติภรณ์ นายกสมาคมสมาคมส่งเสริมความปลอดภัย และอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ร่วมกล่าวแสดงความยินดีในการจัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) การดำเนินโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรพัฒนาผู้บริหาร Mini MBA : นวัตกรรมความยั่งยืนในการจัดการความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน พร้อมกล่าวว่า หลักสูตรนี้ได้ทุ่มสรรพกำลังในการบูรณาการประเด็น ความยั่งยืน (Sustainability) การกีดกันทางการค้า (Trade barrier) การบูรณาการ (Integration) งานด้านความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ทัศนคติหรือมุมมอง (Aspect) ด้านการบริหารธุรกิจ และโลกาภิวัตน์ (Globalization) ได้อย่างกลมกลืนมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมความยั่งยืนในการจัดการความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน

          ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.พิภพ อุดร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวย้ำว่า หลักสูตรนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยมาตรฐานความรู้ด้านการบริหารที่ได้มาตรฐานระดับโลก จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่บรรลุสถานะ 3 มงกุฎ (Triple Crown) นับเป็นแห่งแรกของประเทศ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติอย่างครบถ้วนจาก 3 สถาบันหลักด้านการบริหารธุรกิจของโลก

          โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรพัฒนาผู้บริหาร Mini MBA : นวัตกรรมความยั่งยืนในการจัดการความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน (Organization Executives Mini MBA: Innovative Sustainability in Safety, Health, Environment & Energy Management (SHE & En) ) เปิดอบรมระหว่างวันที่ 13 มกราคม - 30 มีนาคม 2562 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2561

          กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้บริหารทุกระดับ จากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน จำนวน 50 คน ค่าลงทะเบียนจากงบประมาณของหน่วยงาน คนละ 75,000 บาท

หมายเหตุ: ค่าใช้จ่ายในการอบรม บริษัท/หน่วยงาน สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 200%

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง http://www.fph.tu.ac.th/news