Loading...

นักวิชาการธรรมศาสตร์ แนะรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างยั่งยืน

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เผยฝุ่นละอองขนาดเล็กเกิดได้หลายปัจจัย แนะรัฐบาลการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2561

          จากสถานการณ์การเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลในช่วงวันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งตรวจพบค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่ริมถนนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 17 พื้นที่และมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ ได้แก่ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน และริมถนนคู่ขนานพระราม 2 ตรวจพบค่าระหว่าง 53 - 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

          รองศาสตราจารย์ ดร.นันทวรรณ วิจิตรวาทการ คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยสาเหตุจากการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในครั้งนี้ว่า เกิดได้หลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเกิดจากอากาศ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูหนาวจึงทำให้สภาพอากาศแห้ง การไหลเวียนของลมจึงไม่ค่อยดีนัก ทำให้เกิดการสะสมในเรื่องของอุตสาหกรรมก็ส่งผลด้วยเช่นกัน เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีอุตสาหกรรมมากมาย และอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองได้นั้น ก็คือยานพาหนะ ซึ่งทุกปีก็จะมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในเรื่องของอุปกรณ์การกรองน้ำมันหรืออะไรต่าง ๆ ของรถจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การมีปริมาณรถที่มากขึ้น ก็ก่อให้เกิดมลพิษที่มากขึ้นตามไปด้วย และปัจจัยสุดท้ายคือ การเผาไหม้เกษตร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีการควบคุม จึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษ และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมักจะพบเจอได้อยู่ทุกปี รัฐบาลก็พยายามหาวิธีการในการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการปัญหาได้อย่างยั่งยืน

          การแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน มีด้วยกันอยู่หลายวิธี เช่น เรื่องของการใช้น้ำมันดีเซลให้เป็นยูโร 5 และยูโร 6 ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปรับคุณภาพน้ำมันให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่ดังกล่าวจะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง ในส่วนของรถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด  อีกประการหนึ่งต้องเข้มงวด คือ การเผาเกษตร สิ่งที่มักพบเจอคือการเผาสวน เผาขยะ ประกอบกับอากาศที่แห้งก่อให้เกิดการลุกลามจากการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว รองศาสตราจารย์ ดร.นันทวรรณ กล่าวเพิ่มเติม

          สำหรับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ อาจก่อให้เกิดอาการคันจมูก คันคอ มีน้ำมูก วิธีการรับมือในเบื้องต้น คือ ควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน การออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในจุดที่ทางกรมควบคุมมลพิษประกาศ ถ้าหากจำเป็นที่จะต้องไปยังจุดนั้นจริง ๆ ในเวลาที่ไม่นานก็อาจจะใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก แต่สำหรับหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไปมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดใหญ่ ไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ได้ ทางที่ดีควรใช้หน้ากากอนามัย N95 เพราะจะมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดีที่สุด แต่การแก้ไขในเบื้องต้นนั้นเป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ ควรให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาแบบระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต